สาขานี้ถึงจะมองเห็นเค้าลางว่าใครเป็นตัวเต็งชัดแล้ว แต่ก็ยังลุ้นเป็นพิเศษ เนื่องจากกลัวมันจะพลิกล๊อก!!
1 | “Amy Adams” (American Hustle)
ลูกรักออสการ์อย่างสาวเอมี่เข้าชิงสมทบหญิงมาก่อนหน้านี้ถึง 5 ครั้ง ภายใน 8 ปี แต่ยังไม่เคยได้ออสการ์มานอนกอดเลย ปีนี้เธอเข้าชิงนำหญิงเป็นครั้งแรกในบท ‘Sydney Prosser’ นักต้มตุ๋นหญิงที่ถูก FBI จับได้และถูกยื่นข้อเสนอให้เข้ามาช่วยหลอกจับนักการเมืองที่คดโกง แรกๆ กระแสของเธออาจไม่ได้ดีมากเท่าไหร่ แต่ช่วงโค้งสุดท้ายจากการโปรโมท รวมไปถึงการอยู่ในหนังของ David O. Russell ที่เป็นผู้กำกับลูกรักออสการ์ ก็ทำให้เอมี่ดูมีกระแสมากขึ้น แต่ก็ยังถือว่าเหนื่อยเขี้ยวลากดินสุดๆ เพราะต้องเจอกับของหินอย่างจัสมิน
2 | “Cate Blanchett” (Blue Jasmine)
นี่ก็ลูกรักออสการ์อีกคน ชิงออสการ์ถึง 6 ครั้ง เป็นบทนำและสมทบอย่างละ 3 ครั้ง มาปีนี้ถือว่าเคทมีโอกาสที่จะได้ออสการ์สูงมากๆ เนื่องจากบทเจ๊ ‘Jasmine’ อดีตคุณนายไฮโซที่ล่มสลายทั้งชีวิตครอบครัวและฐานะทางการเงิน แต่นางกลับจมไม่ลงและเครียดจนสติสตังเริ่มเพี้ยน ทำให้เคทเป็นจัสมินได้อย่างเข้าถึงอารมณ์ กระแสและคำวิจารณ์ดีตั้งแต่หนังเริ่มฉายจนถึงเดี๋ยวนี้ แต่ก็มีสั่นคลอนบ้างเนื่องจากข่าวค(ร)าวของผู้กำกับ ‘Woody Allen’ รวมไปถึงความแรงในการโปรโมทของ Amy และเจ้าป้า Judi ที่ตีตื้นขึ้นมาได้บ้าง แต่ยังไงเคทก็มีรางวัล SAG, BAFTA, Golden Globe และ Critics’Choice มาการันตีแบบเหมาแพ็คคนเดียวรวด คนอื่นอาจจะตามยากหน่อย
3 | “Sandra Bullock” (Gravity)
ใครว่าเจ๊แสงดาวเล่นแต่หนังคอมเมดี้ได้อย่างเดียว ใครว่าเจ๊ไม่คู่ควรกับออสการ์จาก The Blind Side เราก็จะได้เห็นความพยายามของเจ๊มากขึ้นเรื่อยๆ ในการลบคำครหาที่ผ่านมา กับล่าสุดในหนังไซไฟกระแสดีเรื่องนี้ ก็เป็นเป็นพิสูจน์ความสามารถของเจ๊อีกครั้งในบท ‘Ryan Stone’ วิศวกรหญิงที่ขึ้นไปซ่อมยาน และเกิดอุบัติเหตุขึ้นในอวกาศ นางจึงต้องหาทางเอาตัวรอดให้ได้ ท่ามกลางความเคว้งคว้าง ล่องลอย และตัวคนเดียวในอวกาศ ซึ่งมีโอกาสตายมากกว่ารอด ซึ่งเจ๊แสงดาวเอาอยู่! กับการแบกหนังทั้งเรื่องไว้คนเดียว
4 | “Judi Dench” (Philomena)
นี่ก็ลูกรักออสการ์อีกคนครับ ไม่สิ! ต้องพูดว่าน้องรักออสการ์ต่างหาก เพราะอายุป้าจูดี้ห่างกับลุงออสการ์ราว 5 ปีเท่านั้น! ในเวลา 15 ปี ป้าเข้าชิงออสการ์ถึง 7 ครั้ง เฉลี่ยออกมาก็ปีเว้นปีทีเดียว โดยคว้าสมทบหญิงไปครั้งเดียวจาก Shakespeare in Love ซึ่งออกมาแค่ 8 นาทีเท่านั้น!! ปีนี้เดมจูดี้มาพร้อมกับบท ‘Philomena’ ชื่อเดียวกับตัวหนัง ซึ่งสร้างจากเรื่องจริงของหญิงชราที่ตัดสิดใจตามหาลูกชายแท้ๆ ที่พรากจากกันมาราว 50 ปีตั้งแต่ลูกยังเป็นทารก ผมยังไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้ แต่ก็เชื่อว่าฝีมือระดับเจ้าป้า ไม่น่าจะทำให้ผิดหวังแต่อย่างใด
5 | “Meryl Streep” (August: Osage County)
นี่ซิ! น้องรักออสการ์ของแท้ของจริง เพราะเข้าชิงออสการ์ถึง 18 ครั้ง!! สูงสุดในประวัติศาสตร์ ได้นำหญิงไปสอง สมทบไปหนึ่ง และปีนี้ลูกหลานและเพื่อนพ้องในวงการก็โหวตเจ้าป้าเมอรีลเข้ามาเพิ่มสถิติให้ตัวเองอีกครั้ง จากบท ‘Violet Weston’ แม่ที่สติไม่ค่อยจะสมประกอบและไม่ลงรอยกับลูกสาว ทำให้ครอบครัวของป้ามีแต่ความวุ่นวาย นาทีนี้ไม่ขอพูดอะไรเกี่ยวกับเจ้าป้าแล้วครับ นอกจากจะบอกว่า...ปล่อยป้าแกไปเถอะ!!
ปล. ผมเชียร์ Cate อย่างสุดใจขาดดิ้น ซื้อน้ำแดงมาบนศาลพระภูมิแล้วด้วย ถ้าเกิดพลิกล๊อกอีก ผมขอลาพันทิปไปพักร้อน 1 เดือน
Join us here...เบิกโรงซินีม่า
https://www.facebook.com/BergRongCinema
*** โค้งสุดท้าย ปลายทาง Oscars | “นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม” คุณเชียร์ใคร??? ***
1 | “Amy Adams” (American Hustle)
ลูกรักออสการ์อย่างสาวเอมี่เข้าชิงสมทบหญิงมาก่อนหน้านี้ถึง 5 ครั้ง ภายใน 8 ปี แต่ยังไม่เคยได้ออสการ์มานอนกอดเลย ปีนี้เธอเข้าชิงนำหญิงเป็นครั้งแรกในบท ‘Sydney Prosser’ นักต้มตุ๋นหญิงที่ถูก FBI จับได้และถูกยื่นข้อเสนอให้เข้ามาช่วยหลอกจับนักการเมืองที่คดโกง แรกๆ กระแสของเธออาจไม่ได้ดีมากเท่าไหร่ แต่ช่วงโค้งสุดท้ายจากการโปรโมท รวมไปถึงการอยู่ในหนังของ David O. Russell ที่เป็นผู้กำกับลูกรักออสการ์ ก็ทำให้เอมี่ดูมีกระแสมากขึ้น แต่ก็ยังถือว่าเหนื่อยเขี้ยวลากดินสุดๆ เพราะต้องเจอกับของหินอย่างจัสมิน
2 | “Cate Blanchett” (Blue Jasmine)
นี่ก็ลูกรักออสการ์อีกคน ชิงออสการ์ถึง 6 ครั้ง เป็นบทนำและสมทบอย่างละ 3 ครั้ง มาปีนี้ถือว่าเคทมีโอกาสที่จะได้ออสการ์สูงมากๆ เนื่องจากบทเจ๊ ‘Jasmine’ อดีตคุณนายไฮโซที่ล่มสลายทั้งชีวิตครอบครัวและฐานะทางการเงิน แต่นางกลับจมไม่ลงและเครียดจนสติสตังเริ่มเพี้ยน ทำให้เคทเป็นจัสมินได้อย่างเข้าถึงอารมณ์ กระแสและคำวิจารณ์ดีตั้งแต่หนังเริ่มฉายจนถึงเดี๋ยวนี้ แต่ก็มีสั่นคลอนบ้างเนื่องจากข่าวค(ร)าวของผู้กำกับ ‘Woody Allen’ รวมไปถึงความแรงในการโปรโมทของ Amy และเจ้าป้า Judi ที่ตีตื้นขึ้นมาได้บ้าง แต่ยังไงเคทก็มีรางวัล SAG, BAFTA, Golden Globe และ Critics’Choice มาการันตีแบบเหมาแพ็คคนเดียวรวด คนอื่นอาจจะตามยากหน่อย
3 | “Sandra Bullock” (Gravity)
ใครว่าเจ๊แสงดาวเล่นแต่หนังคอมเมดี้ได้อย่างเดียว ใครว่าเจ๊ไม่คู่ควรกับออสการ์จาก The Blind Side เราก็จะได้เห็นความพยายามของเจ๊มากขึ้นเรื่อยๆ ในการลบคำครหาที่ผ่านมา กับล่าสุดในหนังไซไฟกระแสดีเรื่องนี้ ก็เป็นเป็นพิสูจน์ความสามารถของเจ๊อีกครั้งในบท ‘Ryan Stone’ วิศวกรหญิงที่ขึ้นไปซ่อมยาน และเกิดอุบัติเหตุขึ้นในอวกาศ นางจึงต้องหาทางเอาตัวรอดให้ได้ ท่ามกลางความเคว้งคว้าง ล่องลอย และตัวคนเดียวในอวกาศ ซึ่งมีโอกาสตายมากกว่ารอด ซึ่งเจ๊แสงดาวเอาอยู่! กับการแบกหนังทั้งเรื่องไว้คนเดียว
4 | “Judi Dench” (Philomena)
นี่ก็ลูกรักออสการ์อีกคนครับ ไม่สิ! ต้องพูดว่าน้องรักออสการ์ต่างหาก เพราะอายุป้าจูดี้ห่างกับลุงออสการ์ราว 5 ปีเท่านั้น! ในเวลา 15 ปี ป้าเข้าชิงออสการ์ถึง 7 ครั้ง เฉลี่ยออกมาก็ปีเว้นปีทีเดียว โดยคว้าสมทบหญิงไปครั้งเดียวจาก Shakespeare in Love ซึ่งออกมาแค่ 8 นาทีเท่านั้น!! ปีนี้เดมจูดี้มาพร้อมกับบท ‘Philomena’ ชื่อเดียวกับตัวหนัง ซึ่งสร้างจากเรื่องจริงของหญิงชราที่ตัดสิดใจตามหาลูกชายแท้ๆ ที่พรากจากกันมาราว 50 ปีตั้งแต่ลูกยังเป็นทารก ผมยังไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้ แต่ก็เชื่อว่าฝีมือระดับเจ้าป้า ไม่น่าจะทำให้ผิดหวังแต่อย่างใด
5 | “Meryl Streep” (August: Osage County)
นี่ซิ! น้องรักออสการ์ของแท้ของจริง เพราะเข้าชิงออสการ์ถึง 18 ครั้ง!! สูงสุดในประวัติศาสตร์ ได้นำหญิงไปสอง สมทบไปหนึ่ง และปีนี้ลูกหลานและเพื่อนพ้องในวงการก็โหวตเจ้าป้าเมอรีลเข้ามาเพิ่มสถิติให้ตัวเองอีกครั้ง จากบท ‘Violet Weston’ แม่ที่สติไม่ค่อยจะสมประกอบและไม่ลงรอยกับลูกสาว ทำให้ครอบครัวของป้ามีแต่ความวุ่นวาย นาทีนี้ไม่ขอพูดอะไรเกี่ยวกับเจ้าป้าแล้วครับ นอกจากจะบอกว่า...ปล่อยป้าแกไปเถอะ!!
ปล. ผมเชียร์ Cate อย่างสุดใจขาดดิ้น ซื้อน้ำแดงมาบนศาลพระภูมิแล้วด้วย ถ้าเกิดพลิกล๊อกอีก ผมขอลาพันทิปไปพักร้อน 1 เดือน
Join us here...เบิกโรงซินีม่า
https://www.facebook.com/BergRongCinema